ยูโร 2024 อังกฤษ เส้นทางสู่แชมป์ของสิงโตคำราม
ยูโร 2024 อังกฤษ
ยูโร 2024 อังกฤษ และเส้นทางลุ้นแชมป์
อังกฤษถือเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์สำหรับยูโร 2024 พวกเขาผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม ไม่แพ้ใครเลยตลอดรอบคัดเลือก และยังถูกจับสลากอยู่ในกลุ่ม C กลุ่มที่คาดว่าจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้ไม่ยาก คู่แข่งของพวกเขาในรอบแบ่งกลุ่ม 2024 Euro ครั้งนี้คือ เดนมาร์ก เซอร์เบีย และสโลวีเนีย แต่หลังจากนั้น ทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะต้องเจอกับใครอีกบ้าง?
บทวิเคราะห์การแข่งขัน ยูโร 2024 อังกฤษ รอบแบ่งกลุ่ม
-
อังกฤษ vs เซอร์เบีย (16 มิถุนายน เวลา 20:00 น.) - นัดเปิดสนามของอังกฤษ พวกเขาจะต้องเดินทางไปเยือน สถานที่ที่เคยสร้างฝันร้ายให้กับพวกเขามาแล้วในฟุตบอลโลก 2006 ด้วยการแพ้จุดโทษให้กับโปรตุเกส ภารกิจแรกของพวกเขาคือการล้างแค้นสนามแห่งนี้ และแน่นอนว่าการเจอกับเซอร์เบีย (อันดับ 33 ของโลก) ไม่ใช่เรื่องง่าย หากอังกฤษต้องการคว้าแชมป์กลุ่ม C พวกเขาจำเป็นต้องเก็บชัยชนะในนัดนี้
-
อังกฤษ vs เดนมาร์ก (20 มิถุนายน เวลา 17:00 น.) - เกมนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญของ เซาธ์เกต ในรอบแบ่งกลุ่ม เพราะทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้วในรอบรองชนะเลิศ ยูโร 2020 แม้ว่าอังกฤษจะเป็นฝ่ายชนะ แต่เดนมาร์กก็แสดงให้เห็นศักยภาพด้วยการคว้าแชมป์กลุ่ม H ในรอบคัดเลือก ด้วยอันดับ 21 ของโลก เดนมาร์กถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับอังกฤษในการคว้าแชมป์กลุ่ม C
-
อังกฤษ vs สโลวีเนีย (25 มิถุนายน เวลา 20:00 น.) - บนหน้ากระดาษ นัดนี้ถือเป็นเกมที่ง่ายที่สุดในรอบแบ่งกลุ่ม และเป็นเกมที่อังกฤษน่าจะเก็บชัยชนะได้ ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้ว 6 ครั้ง อังกฤษ ชนะ 5 แพ้ 1 แม้ว่าจะมีผลเสมอ 1-1 ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 แต่โดยรวมแล้ว อังกฤษไม่น่าจะมีปัญหาในการเจอกับสโลวีเนีย
หากอังกฤษจบอันดับ 1 ของกลุ่ม C
หากอังกฤษสามารถคว้าแชมป์กลุ่ม C ได้ พวกเขาจะต้องเจอกับทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดจากกลุ่ม D, E หรือ F ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดย ออสเตรีย คือ ทีมที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะจบอันดับ 3 ในกลุ่ม D ส่วน โรมาเนีย และ สาธารณรัฐเช็ก ก็มีโอกาสเช่นกันในกลุ่ม E และ F ตามลำดับ
ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาอาจจะต้องเจอกับทีมอันดับ 2 จากกลุ่ม A หรือ B ฮังการี และ สวิตเซอร์แลนด์ ต่างมีโอกาสจบอันดับ 2 ในกลุ่ม A ขณะที่ อิตาลี เป็นทีมเต็งที่จะคว้าอันดับ 2 ในกลุ่ม B ซึ่งอาจจะเป็นการรีแมตช์กับคู่ชิงชนะเลิศ ยูโร 2020
หากอังกฤษจบอันดับ 2 ของกลุ่ม C
หากฟอร์มการเล่นของอังกฤษเกิดสะดุด ส่งผลให้พวกเขาจบอันดับที่ 2 เส้นทางการลุ้นแชมป์ก็จะเปลี่ยนไป พวกเขาจะต้องเจอกับแชมป์กลุ่ม A ซึ่งอาจจะเป็นการพบกับเยอรมนี หรือสกอตแลนด์ หลังจากนั้น คู่แข่งของพวกเขาก็ไม่ได้ง่ายขึ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นแชมป์กลุ่ม B หรือทีมอันดับ 3 จากกลุ่ม A, D, E หรือ F แชมป์กลุ่ม B น่าจะเป็น สเปน, อิตาลี หรือ โครเอเชีย ส่วนทีมอันดับ 3 คาดว่าจะเป็น สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรีย, โรมาเนีย หรือ สาธารณรัฐเช็ก
-
รอบรองชนะเลิศ หากอังกฤษเอาชนะแชมป์กลุ่ม E ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่แข่งขันของพวกเขาจะเป็น แชมป์กลุ่ม A (เยอรมนี), แชมป์กลุ่ม B (สเปน) ทีมอันดับ 2 จากกลุ่ม C (เดนมาร์ก หรือ เซอร์เบีย) หรือทีมอันดับ 3 จากกลุ่ม A, D, E หรือ F ตามลำดับ
-
รอบชิงชนะเลิศ หากอังกฤษเอาชนะแชมป์กลุ่ม F ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่แข่งขันที่เหลืออยู่ในสายการแข่งขัน ก็จะมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แชมป์กลุ่ม C (เดนมาร์ก), ทีมอันดับ 2 จากกลุ่ม A (สวิตเซอร์แลนด์, สกอตแลนด์ หรือ ฮังการี) หรือทีมอันดับ 3 จากกลุ่ม D, E หรือ F (ออสเตรีย, โรมาเนีย หรือ สาธารณรัฐเช็ก)
จุดแข็งของอังกฤษ
มีนักเตะมากพรสวรรค์ โดยเฉพาะในแนวรุก ฟอร์มการเล่นของ แฮร์รี่ เคน, โฟเด้น, จู๊ด เบลลิงแฮม และ คอล พัลเมอ สร้างความหวังให้กับแฟนบอลอังกฤษได้มากในทัวร์นาเมนต์นี้ รวมถึงพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทีมชาติอังกฤษมีผลงานที่ดีขึ้นตามลำดับ การผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ในรายการแข่งขันสำคัญ เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้น หากอังกฤษยังคงพัฒนา โอกาสคว้าแชมป์ก็มีมากขึ้นเช่นกัน พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ อังกฤษอยู่ในกลุ่มที่มีความสูสี ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส, เยอรมนี และโปรตุเกส ความกดดันที่น้อยลง อาจจะส่งผลดีต่อทีมของเซาธ์เกต ไม่ว่าพวกเขาจะต้องเจอกับใครก็ตามในเยอรมนี
อุปสรรคของอังกฤษ
- ฟุตบอลโลก 2018 รอบรองชนะเลิศ พวกเขาแพ้ให้กับโครเอเชียในช่วงต่อเวลาพิเศษ ส่วน ยูโร 2020 พวกเขาก็แพ้จุดโทษให้กับอิตาลีในรอบชิงชนะเลิศ การจัดการกับความกดดันในช่วงเวลาเหล่านี้ จะเป็นโจทย์ใหญ่ที่ เซาธ์เกต ต้องแก้ไข
- ขาดประสบการณ์ แม้ว่าจะมีนักเตะดาวรุ่งมากพรสวรรค์ แต่ผู้เล่นตัวหลักบางคน ยังขาดประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเล่นในช่วงเวลาที่กดดัน ซึ่งอาจส่งผลต่อฟอร์มการเล่นโดยรวมของทีม
- อาการบาดเจ็บ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่อาศัยความฟิต หากนักเตะตัวหลักเกิดอาการบาดเจ็บ ก็ส่งผลต่อแผนการเล่นของ เซาธ์เกต ทีมอาจจะขาดความสมดุล และส่งผลต่อโอกาสในการคว้าแชมป์
อังกฤษในยูโร 2024 บนเส้นทางทดสอบสุดหิน
แม้ว่าเส้นทางการลุ้นแชมป์ของทีมชาติอังกฤษจะไม่ง่าย พวกเขาต้องเจอกับทีมแข็งแกร่งหลายทีม แต่โอกาสคว้าแชมป์ยูโรครั้งแรก ก็ไม่ใช่เรื่องเกินเอื้อม ทั้งนี้ ฟอร์มการเล่น การจัดการกับความกดดัน และการโชว์ฟอร์มอย่างต่อเนื่องของนักเตะตัวหลัก จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อผลลัพธ์ของทัพสิงโตคำราม